วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สิ่งที่ได้จากการเรียนวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร( 1061601)

ด้านเนื้อหา : ได้รับความรู้

1. ในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศที่ดีและการจัดการทรัพยากรในองค์กร

2. การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ทันสมัย สร้างโอกาส และความเท่าเทียมกันทางการศึกษา

3. การสร้างนวัตกรรมการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ ประเภท หลักการ และการพัฒนาของนวัตกรรม

4. การประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางการศึกษาใช้ในการจัดการเรียนการสอน และการสืบค้นข้อมูลจากระบบฐานข้อมูล ออนไลน์

5. คุณธรรมจริยธรรมสำรับผู้บริหารในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ความสำคัญทรัพย์สินทางปัญญา

6. การพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และรูปแบบเทคโนโลยีทางการศึกษาในอนาคต

ด้านกิจกรรมในห้องเรียน:

1. มีความรู้พื้นฐานการใช้คอมพิวเตอร์และสามารถนำมาใช้ในการทำงานด้านการเรียนการสอน

2. รู้วิธีและสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลต่าง ๆ มากขึ้น

3. มีทัศนคติที่ดีต่อการใช้คอมพิวเตอร์ ( ไม่ยาก เรียนรู้ได้และฝึกทำอย่างต่อเนื่อง)

4. มีการแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็นและเคราพกฏ กติกา ในการทำกิจกรรมกลุ่ม

5. ความมีน้ำใจของเพื่อนนักศึกษาด้วยกันในการช่วยเหลือทำชิ้นงาน

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สรุปผลการเรียนรู้สัปดาห์ที่ 2 (วันที่ 13-14 มิถุนายน 2552)


ด้านเนื้อหา

บทที่ 3 การบริหารจัดการเทคโนยีสารสนเทศเพื่อ่ตอบสนองความต้องการภาครัฐและเอกชน

มีการการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในด้าน
-ด้านการวางแผน กำหนดแนวทางในการดำเนินงานขององค์กร
-ด้านการตัดสินใจ ใช้สนับสนุนเพื่อเลือกที่ดีที่สุด
-ด้านการดำเนินงาน ใช้ควบคุมติดตามผลงานให้เป็นไปตามแผน
กระบวนการตัดสินใจ ข้อมูล ประมวลผล สารสนเทศ การตัดสินใจ จุดมุ่งหมาย
สิ่งที่เป็นปัญหาในการตัดสินใจของผู้บริหารคือ การขาดข้อมูล ซึ่งทำให้เกิดการผิดพลาด
ผู้บริหารที่รับผิดชอบทางด้านสารสนเทศ
CEO -ผู้บริหารสูงสุดขององค์กร จะต้องมีภาวะผู้นำ
CIO- ผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ รับผิดชอบด้วยสารสนเทศ
COO- ผู้บริหารด้านการปฏิบัติการ มีหน้าที่บริหารการกิจกรรมต่าง ๆ
CKO- ผู้บริหารด้านความรู้
ระดับการบริหารงานในองค์กร แบ่งออกเป็น 3 ระดับ
- ผู้บริหารระดับสูง กำหนดนโยบายและวางแผน
- ผู้บริหารระดับกลาง รับนโยบายและวางแผนเชื่อมโยงกับระดับต้น
- ผู้บริหารระดับต้น ปฎิบัติตามแผนและนโยบายให้บรรลุเป้าหมาย
ระบบสารสนเทศสำหรับองค์กร
-ระบบประมวลผลรายการ(TPS)
-ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ(MIS)
-ระบบสารสนเทศสำนักงาน( OIS )
-ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ(DSS)
-ระบบสนับสนุนผู้บริหารระดับสูงสุด( ESS )

บทที่ 4 ความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีมีผลกระทบ

ทางด้านสังคม
แง่บวก ทำให้การดำรงชีวิตสดวกสบายมากขึ้น
ช่วยพัฒนาระบบการทำงานให้รวดเร็ว ประหยัด
ทำงานร่วมกันได้ทุกที ทุกเวลา
ช่วยด้านการแพทย์ให้ก้าวหน้ายิ่งขี้น
พัฒนาด้านการเรียนการสอน
แง่ลบ เกิดความขัดแย้งทางแนวความคิดเก่าและใหม่
เกิดอาชญากรรมทางด้านคอมพิวเตอร์
อัตราจ้างงานลดลง
ทางด้านการเมือง
นำเทคโนโลยีสารเทศในการเผยแพร่ข่าวสารข้อมูล การหาเสียง ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขี้น
ทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่
มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการสร้างสารสนเทศมากขึ้นทำให้เกิดความรู้ใหม่ๆ ขึ้น ซึ่งนำมาสู่การสร้างปัญญา
ความรู้มี 2 รูปแบบ
Tacit knowledge คือ ความรู้ที่อยู่ในตัวบุคคล Explicit knowledgeคือ ความรู้ที่แสดงออกมา
การจัดการความรู้( KM) คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีการกระจัดกระจายมาพํฒนาให้เป็นระบบ
กลยุทธ์ คือ แนวทางให้องค์กรเอาชนะคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระบวนการการจัดการเชิงกลยุทธ์ คือ วิเคราะห์กลยุทธฺ์( จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค )
จัดทำกลยุทธ์ การนำข้อมูลจากการประเมินตนเองมากำหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
ปัจจัยสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์
- สภาพแวดล้อมภายนอก
- สภาพแวดล้อมภายใน
-เป้าหมายขององค์กร

บทที่ 5 ความรู้พื้นฐานของนวัตกรรมการศึกษา

นวัตกรรม เป็นผลลัพธ์ ที่เกิดจากการจัดการความรู้โดยบูรณาการที่เกิดจากองค์ความรู้ใหม่หรือการต่อยอดองค์ความรู้เดิมใ
นวัตกรรมทางการศึกษา หมายถึง นวัตกรรมที่จะช่วยในการศึกษาและการเรียนการสอนขึ้นให้มีประสิทธิภาพมาก
การสร้างนวัตกรรมการศึกษามีองค์ประกอบคือ โครงสร้างขององค์กร บุคลากร กระบวนการ กลยุทธ์และยุทธ์วิธี และเครือ่ง
มือ และเท๕โนโลยีสารสนเทศ
ปัจจัยที่มีต่อการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษามี 3 ระดับ
- ความเป็นเลิศของบุคคล
- ความเป็นเลิศของทีมงาน
- ความเป็นเลิศขององค์กร
หลักการของนวัตกรรมการศึกษามี 5 ประการ
- เป็นเรื่่องของความคิด
- ได้เปรียบการแข่งขัน
- เพิ่มราคาได้
- ผู้บริหารสูงสุดต้องนำและรับผิดชอบต่อนวัตกรรม
- ผู้บริหารสูงสุดต้องผูกพันและแพร่กระจายไปยังบุคคลอื่น

บทที่ 6 การประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางการศึกษา
การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บไซด์ 2 มี แบบ
- การจัดการเรียนการสอนบนเว็บ คือ รูปแบบการเรียนการสอนที่อาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต
- บทเรียนออนไลน์ คือ การจัดการเรียนการสอนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในลักษณะการถ่ายทอดผ่านทางสื่อ
- โมบายเลิร์นนิ่ง คื่อ เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย
-สวนดุสิตอินเทอร์เน็ตบรอดคาสติ้ง คือการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่อการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย บริการเผยแพร่ความรู้ และบริการวิชาการสู่สังคมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
-ห้องสมุดเสมือน คือนวัตกรรมทางการศึกษาที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์สืบค้นสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ประโยชน์ในการสอน การทำผลงานทางวิชาการและการวิจัย

กิจกรรมภายในห้องเรียน
อาจารย์ให้ทำกิจกรรมกลุ่ม ช่วยกันวิเคราะห้ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค
โดยมีวิธีการ แบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม( 4 กลุ่มร่วมอภิปราย ตามหัวข้อที่อาจารย์กำหนดให้ 1 กลุ่มเป็นผู้ประเมินและออกแบบการประเมิน ) ทุกกลุ่มส่งตัวแทนออกมารายงานหน้าชั้น และมีการประเมินผลคะแนนของแต่ละกลุ่ม และอาจารย์จะช่วยเสริมและแสดงความคิดเห็นบางส่วนด้วย

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บทคัดย่อ

สิ่งที่ได้เรียนรู้
1. หาข้อมูลจากฐานข้อมูลของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ
2. รู้รูปแผนการทำบทคัดย่อ
3. รู้วิธีการเขียนอ้างอิง
4. รู้วิธีการเลือกบริโภคข้อมูลจากสื่อที่หลากหลายที่เกี่ยวข้องกับเรา
5. ได้รู้จักการหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และรู้จักการใช้ Keyword เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เราต้องการ

นวัตกรรมการศึกษา

ชื่อวิทยานิพนธ์: การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียแบบภาพพาโนรามาเสมือนจริง 360 องศาเรื่อง ป่าชายเลน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ 1 สมุทรสาคร
ชื่อนักศึกษา: นายนภดล ฤกษ์สิริศุภกร
สถาบัน: มหาวิทยาลัยศิลปากร
ปริญญา: มหาบัณฑิต
สาขา: เทคโนโลยีทางการศึกษา
ปี: 2550
สืบค้นข้อมูลต้นสังกัด :http://www.thapra.lib.su.ac.th/thesis/
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัมนาบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียแบบภาพพาโนรามาเสมือนจริง 360 องศา เรื่องป่าชายเลน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียน ของผู้เรียนที่เรียนจากบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียแบบภาพพาโนรามาเสมือนจริง360 องศา เรื่องป่าชายเลน 3) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ซึ่งกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียน สมุทรสาครบูรณะ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 46 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียแบบภาพพาโนรามาเสมือนจริง 360 องศา เรื่องป่าชายเลน 2) แบบทดสอบวัดผลสัฒฤทธิ์ทางการเรียน3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการหาค่าระดับความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย และ t-test เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนหลังจากการศึกษาบทเรียนคอมเตอร์มัลติมีเดียที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผุ้วิจัยสร้างขึ้นมีค่า80.62/86.54 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างอย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 และความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นอยู่ในระดับมากที่สุด ( 4.62 )
เอกสารอ้างอิง: นภดล ฤกษ์สิริศุภกร. ( 2550 ) . การพัฒนาบทเรียนคคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียแบบภาพพาโนรามาเสมือนจริง360 องศาเรื่องป่าชายเลนที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 .นครปฐม : มหาวิทยาลัยศิลปากร
สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ :
1. รู้รูปแบบการทำบทคัดย่อของวิทยานิพนธ์
2. รู้วิธีการเขียนอ้างอิง
3. รู้วิธีการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและรู้จักการใช้ Keyword เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เราต้องการ
4. รู้วิธีการหาวิทยานิพนธ์ทางอินเตอร์เน็ต
5. รู้รูปแบบงานวิจัย

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สรุปผลการเรียนรู้ในสัปดาห์ที่ 1

1. ความรู้ที่นักศึกษาได้รับจากการเรียนในครั้งนี้โดยสรุป - ช่วงเช้าอาจารย์สอนเนื้อหาในภาคทฤษฎี บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีเนื้อหาเกี่ยวกับความหมายของข้อมูลสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ คุณสมบัติของสาสนเทศที่ดี การจัดโครงสร้างของระบบสารสนเทศ ในช่วงบ่ายอาจารย์ให้จับกลุ่ม 10 คน เพื่อที่จะสมัคร hot mail ทุกคนในกลุ่มช่วยกันดีมาก หลังจากเสร็จแล้ว อาจารย์สอนบทที่ 2 เทคโนโลยีสารสนเทศต่อการพัฒนาการศึกษา ซึ่งจะเกี่ยวกับ แหล่งความรู้ต่างๆที่ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เนต นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ และบทบาทของผู้บริหารการศึกษาต่อการพัฒนา
2. ประโยชน์ที่มีของระบบเครือข่ายอินเตอร์เนต ( internet ) ต่อกระบวนการจัดการศึกษา - เป็นแหล่งความรู้ขนาดใหญ่ ทำให้การสืบค้นข้อมูลและแลกเปลี่ยนสาระความรู้ต่างๆได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึงกัน ผู้เรียนสามารถหาความรู้ได้ด้วยตนเองตลอดเวลา - สร้างความเท่าเทียมกันทางการศึกษา สำหรับผู้เรียนที่อยู่ห่างไกลในชนบทเปิดโอกาสให้ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ที่หลากหลาย หรือเสมือนมี " ห้องสมุดโลก " ( library of the word )เพียงปลายนิ้วสัมผัส - สามารถจัดการศึกษาได้หลายรูปแบบ เช่น การศึกษาทางไกล การศึกษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนส์ ระบบการเรียนแบบออนไลน์ - การที่ผู้เรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาสิ่งที่ตนเองสนใจ ถือว่าเป็นแรงจูงใจสำคัญอย่างหนึ่งในการเรียนรู้ของผู้เรียน - ทำให้การสื่อสารเพิ่มมากขึ้นในระบบการศึกษา ระหว่างครูกับครู ครูกับนักเรียน นักเรียนกับนักเรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางในการให้การบ้าน รับการบ้าน ส่งเสริมการทำงานกลุ่ม การปรึกษาหารือกับเพื่อน
3. เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของโปรแกรมประยุกต์บนอินเทอร์เนตเมื่อเทียบกับการติดตั้งโปรแกรมใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
โปรแกรประยุกต์บนอินเทอร์เน็ต
ข้อดี - ไม่ต้อง up grade โปรแกรม - ไม่เปลืองเนื้อที่ในการติดตั้งโปรแกรม - ใช้ข้อมูลร่วมกันได้ - ใช้งานได้หลายๆคนในเวลาเดียวกัน
ข้อเสีย - ถ้าไม่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตจะไม่สามารถใช้งานได้ -ดูภาพเคลื่อนไหว ภาพยนต์ ฟังเพลง สัญญาณสะดุด
โปรแกรมส่วนบุคคล
ข้อดี - ใช้ได้สะดวก ทุกเวลา - ไม่จำเป็นต้องต่ออินเตอร์เนตก็สามารถใช้งานได้ -โปรแกรมดูหนังฟังเพลงได้ดีไม่สะดุด
ข้อเสีย - ใช้งานได้ทีละคน - ต้องติดตั้งโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ -ไม่สามารถทำงานหรือร่วมแสดงความคิดกับผู้อื่นได้

ภาพประทับใจ 2

ภาพนี้จากการอบรม TO BE NUMBER ONE ที่รัศมีรีสอรท์ จ.ปราจีนบุรี ผู้เข้าอบรมได้แสดงออกตามบทบาทผู้นำผู้ตาม มีกิจกรรมตามฐาน ทุกคนสนุกสนาน (ดูสีหน้าซิค่ะ มีความสุขแค่ไหน )

ภาพประทับใจ

ภาพครอบครัวเมื่อไปเที่ยวที่พระตำนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ที่นี่บรรยากาศดี ดอกไม้ พรรณไม้หายาก มากมาย โดยเฉพาะดอกกุหลาบ มีขนาดใหญ่หลายสี หลายพันธุ์ สวยงามตระการตาจริง ๆ